เหลือเชื่อ!!5 การเปลี่ยนตัวช็อคโลกที่ไม่น่าเกิดขึ้น โดยดูบอลออนไลน์

เหลือเชื่อ!!5 การเปลี่ยนตัวช็อคโลกที่ไม่น่าเกิดขึ้น

เดลิโอ รอสซี่ ต่อยลูกทีม(ฟิออเรนติน่า VS โนวาร่า 2012)

ในปี 2012 'เดลิโอ รอสซี่' ที่ตอนนั้นคุมทีมฟิออเรนติน่าได้จัดการเปลี่ยนตัว 'อเด็ม ลายิช' ออกในเกมกับโนวาร่า ทำให้อดีตนักเตะที่เคยไปทดสอบฝีเท้ากับแมนฯยูไนเต็ดรายนี้เกิดอาการไม่พอใจจึงทำการประชดประชันกุนซือด้วยการตบมือซึ่งเป็นฉนวนเหตุให้ เดลิโอ รอสซี่ ไม่สบอารมณ์จึงระเบิดโทสะปล่อยหมัดใส่อเด็ม ลายิช จนเพื่อนร่วมทีมและสต๊าฟโค้ชต้องรีบพากันแยกตัวออกไป

หลังจากเกมนั้น เดลิโอ รอสซี่ ถูกปลดออกจากการเป็นผู้จัดการทีมฟิออเรนตินาและโดนโทษแบบ 3 เดือนจากเหตุการณ์ดังกล่าวแม้เจ้าตัวจะออกมาขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปแล้วก็ตาม

แฟนบอลซูเปอร์ซับ(เวสต์แฮม VS อ็อกซ์ฟอร์ด ซิคี้ 1994)

หลังจากมีแฟนบอลปากหมารายหนึ่งนามว่า 'สตีฟ เดวี่ส์' ออกมาบอกว่าตัวเขาเองนั้นเล่นดีกว่า ลี แชปแมน ศูนย์ของทีมเวสต์แฮมในตอนนั้นในเกมระหว่าง เวสต์แฮม กับ อ็อกซ์ฟอร์ด ซิตี้ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ นายใหญ่ขุนค้อนจึงตัดสินใจส่งแฟนบอลรายนี้ลงสนาม ดูบอลออนไลน์

และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่น่าเชื่อของเรื่องนี้ เดวี่ส์ได้ลงสนามหลังจากที่อัดบุหรี่และดื่มเหล้าไปอึกใหญ่บนอัฒจันทร์ฝั่งทีมเยือน แต่แล้วประวัติศาสตร์ลูกหนังก็ต้องจดจำวันนี้หลังจากเจ้าตัวจัดการส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้สำเร็จในนาทีที่ 71 "มันเหมือนกับว่าเวลาหยุดเดินยังไงยังงั้น มันคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตผมเลยทีเดียว" เดวี่ส์กล่าวหลังจากนั้น แม้แต่แฮร์รี่ยังยอมรับว่าเจ้าตัวเล่นดีกว่าแชปแมนเสียอีก

สจ๊วร์ต เพียร์ซส่งเจมส์ไปยืนศูนย์หน้า(แมนฯซิตี้ VS มิดเดิ้ลสโปรช์ 2005)

เกมนี้เป็นการตัดสินว่าใครจะได้ตั๋วยูฟ่า คัพ ใบสุดท้ายไปครองโดยแมนฯซิตี้ของ 'สจ๊วร์ต เพียร์ซ' ต้องการชัยชนะสถานเดียวส่วนโบโร่ขอเพียงแค่เสมอพวกเขาก็จะได้โควต้าทันที สำหรับเกมนี้รูปเกมก็ดำเนินไปอย่างปกติแต่ทว่าในช่วงท้ายเกมซึ่งตอนนั้นสกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 1- 1 ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นหลังจากสจ๊วร์ต เพียร์ซ ได้ดัน เดวิด เจมส์ ไปยืนเป็นศูนย์หน้าในช่วงท้ายเกมตอนที่ทีมของเขากำลังไล่ล่าประตูชัย แล้วถอด เคลาดิโอ เรย์น่า กองกลางออกแล้วให้ นิคกี้ วีเวอร์ ผู้รักษาประตูอีกรายลงไปแทน

ซึ่งไอเดียดังกล่าวเกือบจะสำเร็จสมบูรณ์แบบงงๆอยู่แล้วหลังแมนฯซิตี้ได้จุดโทษในช่วงทดเจ็บแต่ มาร์ค ชวาร์เซอร์ ก็สามารถเซฟลูกยิงของ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ไว้ได้ แต่ที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่าก็คงเป็น จอน แม็คเคน ศูนย์หน้าอาชีพของทีมในตอนนั้นที่ถูกมองข้ามไปอย่างไม่น่าให้อภัย

มูรินโญ่เปลี่ยนสำรอง 3 ตัวรวด(นิวคาสเซิล vs เชลซี 2005)

นี้คือฤดูกาลแรกของ 'มูรินโญ' กับ 'เชลซี' และเป็นเกมเอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยพวกเขาพบกับนิวคาสเซิล ซึ่งหลังจากจบครึ่งแรก 'สิงห์บลูส' ตามหลังเดอะ แม็กพายส์อยู่ 1-0 มูรินโญ่จึงไม่รอช้าจัดการเปลี่ยนตัวทีเดียว 3 คนรวดตั้งแต่ช่วงเริ่มครึ่งหลัง

แต่ทุกอย่างคงไม่เป็นไปตามที่กุนซือโปรตุกีสผุ้นี้วาดฝันไว้หลังเริ่มครึ่งหลังได้ไม่นาน  เวย์น บริดจ์ ก็มีอาการบาดเจ็บหลังจนต้องถูกหามออกจากสนามเช่นเดียวกับดัฟฟ์ที่เดี้ยงไปอีกคน แล้วจากนั้น คาร์โล คูดิชินี่ ก็มาโดนไล่ออก ยังไม่จบแค่นั้น วิลเลี่ยม กัลลาส ดันเจ็บเพิ่มอีกก่อนหมดเวลาไม่กี่นาที 

โดยมูรินโญได้ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า "บางครั้งถึงคุณจะแพ้ แต่ก็ยังภูมิใจในทีม" (แต่คงคิดในใจไม่น่าเลยตู!!)

สำรองและใบแดงของสตีวี่จี (ลิเวอร์พูล vs แมนฯยูไนเต็ด 2015)

เป็นนัดแดงเดือดนัดสุดท้ายของกับตันตลอดกาลของสาวก'เดอะค็อป'หลังจากฤดูกาลนั้นพวกเขาเก็บได้ 33 แต้มจาก 39 แต้มเต็มใน 13 นัดหลังสุด ลิเวอร์พูลก็มุ่งมั่นที่จะเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อโควตาแชมเปี้ยนส์ลีกที่นั่งสุดท้าย แต่ 'เบรนแดน รอดเจอร์ส' กลับเลือกดร็อป 'สตีเว่น เจอร์ราร์ด' ไว้ที่ข้างสนามในฤดูกาลสั่งลาของเขา และเลือกใช้ อดัม ลัลลาน่า กับ โจ อัลเลน เป็นนายใหญ่ในแผงมิดฟิลด์ ดูบอลออนไลน์

เข้าสู่ช่วงต้นครึ่งหลัง 'เจอร์ราร์ด' ได้รับโอกาสให้ลงสนามเพื่อหวังจะให้เขาสั่งลานัดสุดท้ายของเขาอย่างมีความสุขที่สุดแต่แล้วเจ้าตัวกลับเจอเรื่องไม่คาดคิดหลังจากไปทำฟาวล์ใส่ อันเดร์ เอร์เรร่า โดนใบแดงไล่ออกโดนอยู่ในสนามได้เพียงแค่ 38 วินาที ผลสุดท้ายปีศาจแดงชนะ 2-1 ดับความหวังลุ้นท็อปโฟร์ของหงส์แดงเสียสนิท และเรื่องนี้ยังถูกนำเอามาล้ออยู่บ่อยครั้ง

ผู้เขียน Toffeesmen