[บทความฟุตบอล]เสี่ยหมูฟังไว้!5 แข้งดังปรับสไตล์ตัวเองเรียกฟอร์มเก่ง

เสี่ยหมูฟังไว้!5 แข้งดังปรับสไตล์ตัวเองเรียกฟอร์มเก่ง

หากจะถามหาใครสักคนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ฟอร์มการเล่นในตอนนี้เชื่อว่าเกิน 90 เปอเซ็นต์จะต้องมีชื่อของนักเตะรายนี้ติดโผรวมอยู่ด้วยแน่นอน

เวย์น รูนีย์ กองหน้า "ปีศาจแดง"  ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังสุดๆในตอนนี้ ส่งผลให้เขาหลุดไปเป็นตัวสำรองทั้งในนามสโมสรและทีมชาติเป็นที่เรียบร้อย 

อนึ่งสาเหตุน่าจะมาจากด้วยอายุที่มากขึ้นและตำแหน่งการเล่นที่เปลี่ยนไปทำให้เจ้าตัวยังไม่คุ้นชินเท่าไหร่นัก 

แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ใช่นักเตะคนแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นยังมีแข้งดังอีกหลายรายที่ต้องปรับเปลี่ยนสไตล์ของตัวเองเพื่อเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาให้ได้ และต่อจากนี้คือ 5 แข้งดังปรับสไตล์ตัวเองเพื่อเรียกฟอร์มเก่ง ดูบอลสด

ซามี ฮูเปีย

หนึ่งในอดีตตำนานกองหลังของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ฮูเปีย ย้ายมาร่วมทัพ หงส์แดงตั้งแต่ปี 1999 และเป็นแกนหลักให้กับทีมมาโดยตลอด 

จนกระทั่งเข้าสู่วัย 30 ปีเต็มในปี 2003 เจ้าตัวก็เริ่มมีปัญหากับการรักษาฟอร์มเก่งของตัวเอง ความเร็วของฮูเปีย ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนโดนกองหน้าคู่แข่งวิ่งแซงให้เห็นเป็นประจำและถูกดร็อปไปเป็นตัวสำรองในที่สุด

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ ฮูเปีย ต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นของตัวเองโดยด่วนเขาหันมาเน้นการอ่านเกมและการยืนตำแหน่งมากขึ้น จนกลับมาเล่นได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง แม้ช่วงที่ลาจากลิเวอร์พูลไปในปี 2009 เขาก็ยังถือว่าเป็นกองหลังที่ดีที่สุดคนหนึ่งในพรีเมียรลีก

สตีเฟน คาร์

อดีตแบ็กขวาจอมบุกคนหนึ่งของวงการลูกหนังผู้ดี สตีเฟน คาร์ เริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่สมัยเล่นให้กับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ด้วยเทคนิคอันยอดเยี่ยม และความอึดที่วิ่งไม่หมด ทำให้ถูกนิวคาสเซิลกระชากตัวไปร่วมทัพในปี 2004

แต่ทว่าชีวิตค้าแข้งใน เซนต์ เจมส์ พาร์ค ของเจ้าตัวกลับไม่ได้สวยหรูเหมือนที่ฝันไว้เขาถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานบ่อยครั้งจนไม่สามารถรักษาตำแหน่งตัวจริงไว้ได้ก่อนจะหมดสัญญากับทีมไปในอีก 2008

หลังจากนั้น สตีเฟน คาร์ ตัดสินใจย้ายไปร่วมทัพ เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ ในเดอะแชมเปี้ยนชิพ และที่นี้เองที่ทำให้เขาแจ้งเกิดใหม่อีกครั้งแต่ไม่ใช่ในฐานะแบ็คจอมบุกเหมือนเดิมด้วยอายุที่มากขึ้น คาร์ หันมาเน้นเล่นเกมรับที่เหนียวแน่นแทน ซึ่งมันช่วยให้ เบอร์มิ่งแฮม เลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็ว

และในฤดูกาลต่อมาเขาก็พาทีมจบอันดับ 9 ได้อย่างเหลือพร้อมคว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ 2011 ได้อย่างยิ่งใหญ่ แต่น่าเสียดายที่ทีมต้องตกชั้นกลับไปอีกครั้งในภายหลัง

พอล สโคลส์

แฟนบอล ปีศาจแดง คงไม่มีวันลืมกองกลางตัวรุกที่มีนามว่า พอล สโคลส์ อย่างแน่นอนด้วยความอันตรายสุดๆในการทำประตูและทีเด็ดจากลูกยิงไกล ส่งให้ สโคลส์ เป็นที่รักอย่างมากของพลพรรค เรด เดวิลล์ 

แต่ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บทำให้เขาต้องเปลี่ยนสไตล์การเล่นของตัวเองไปจากเดิมพอสมควร ด้วยวัย 30 ปี  สโคลส์ หันมารับบทบาทเป็นกองกลางตัวกลางที่อาศัยไหวพริบและความฉลาดแทนและมันก็ทำให้เจ้าตัวโชว์ผลงานได้อย่างสุดยอดในซีซั่น 2006/07 พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ

จนกระทั้ง ปีศาจแดง ตัดสินใจขาย รุด ฟาน นิสเตอรอย ออกไปทำให้  สโคลส์ ต้องปรับสไตล์อีกครั้ง โดยไปประจำการเป็นกองกลางตัวตํ่าคอยสร้างสรรค์เกม ซึ่งมันก็ทำให้เขายังเล่นกับทีมได้อีกหลายปีทีเดียว

เดเมี่ยน ดัฟฟ์

จากปีกตัวจี๊ดที่เปี่ยมไปด้วยความเร็วและเป็นกำลังหลักให้กับ เชลซี เขาตัดสินใจลาทีมและย้ายมาร่วมทัพกับ สาลิกาดง แบบเหลือเชื่อและนั้นก็เหมือนฝันร้ายของเขาเพราะตลอด 3 ฤดูกาลที่อยู่กับทีมเขาไม่สามารถงัดเอาฟอร์มเก่งออกมาได้เลยแถม นิวคาสเซิล ยังตกชั้นลงไปลีกเดอะแชมเปี้ยนชิพอีก

อย่างไรก็ตาม รอย ฮอดจ์สัน กุนซือฟูแล่มในเวลานั้นตัดสินใจเสี่ยงซื้อ ดัฟฟ์ เข้ามาร่วมทัพเพื่อหวังจะปลุกฟอร์มเก่งของเจ้าตัวออกมาให้ได้ และมันก็ได้ผล ดัฟฟ์ ปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นจากเมื่อก่อนที่เน้นใช้ความเร็วและหาช่องเป็นปีกที่เน้นจ่ายบอลแม่นยำแทน

ดัฟฟ์ พาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอล ยูโรป้า ลีกได้สำเร็วและแม้ทีมจะเปลี่ยนตัวกุนซือเขาก็ยังโชว์ฟอร์มเก่งได้อย่างต่อเนื่อง

อลัน เชียเรอร์

อลัน เชียเรอร์ ถือเป็นนักเตะอีกรายที่มีคุณภาพคับแก้วที่สุดคนหนึ่งของวงการฟุตบอลอังกฤษ แต่เชื่อหรือไม่เจ้าตัวก็เคยอยู่ในช่วงฟอร์มที่ตกตํ่ามาแล้วเหมือนกัน ถึงขนาดไม่มีที่ว่างในทีมชาติอังกฤษเลยทีเดียว

แต่ทว่าด้วยการเข้ามาคุมทีมนิวคาสเซิลของ เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน และการอำลาทีมชาติในปี 2000 ทำให้เขาค่อยๆปรับสไตล์การเล่นของตัวเองเพื่อชดเชยกับความเร็วที่หายไปและมันก็ส่งผลให้เขาทำประตูไปได้ถึง 80 ในช่วงเวลาเพียง 3 ฤดูกาลเท่านั้น 

จนสุดท้ายทีมชาติอังกฤษเสนอให้เขากลับไปเล่นให้กับทีมชาติด้วยวัย 33 ปี แต่เจ้าตัวก็เลือกตอบปฏิเสธไปแบบไม่ต้องคิดให้มากความ ดูบอลสด

ผู้เขียน Toffeesmen