บทความฟุตบอล:5 แข้งดังขึ้นอย่างหงส์แต่จบไม่สวย

5 แข้งดังขึ้นอย่างหงส์แต่จบไม่สวย


สุดยอดนักเตะหลายคนเริ่มโด่งดังตั้งแต่เป็นวัยรุ่นจนกระทั่งแขวนสตั๊ดพวกเขาก็ยังถูกกล่าวถึงในฐานะตำนานนักฟุตบอลคนหนึ่งของวงการแต่ทว่าก็ยังมีนักเตะเก่งๆหลายรายที่เคยดังถึงขีดสุดแต่ในชีวิตบั้นปลายค้าแข้งกับจบลงแบบไม่สวย

ดังนั้นวันนี้เราจึงจะพาไปดู 5 แข้งดังขึ้นอย่างหงส์แต่จบไม่สวยกันโดยจะมีใครบ้างไปติดตามได้ในบทความนี้กันเลย! ดูบอลสด

1.ร็อบบี้ ฟาวเลอร์


เจ้าของฉายา 'เดอะ ก็อด' ของสาวก'หงส์แดง' ฟาวเลอร์ ถูกยกให้เป็นตำนานคนหนึ่งของวงการฟุตบอลอังกฤษ เคยค้าแข้งอยู่กับสโมสรดังมากมายไม่ว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล,ลีดส์,แมนฯ ซิตี้ และ เเบล็คเบิร์น

แต่ทว่าด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บที่รุมเร้าบวกกับฟอร์มที่ตกลงอย่างน่าใจหายทำให้ในปี 2009/10 เขาตัดสินย้ายข้ามฟากมาเล่นให้กับ นอร์ธ ควีนส์แลนด์ ฟิวรี่ ทีมใน เอ ลีก ออสเตรเลีย ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ เพิร์ธ กลอรี่ ในปี 2010/11และตามด้วยการย้ายมาอยู่กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในศึกไทยพรีเมียร์ลีก แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนักยิงได้เพียง 4 ประตูเท่านั้นจากการลงเล่น 20 นัดก่อนจะยกเลิกสัญญากันไปในที่สุด

และนี้ก็ยังถือเป็นสโมสรสุดท้ายในอาชีพค้าแข้งของเจ้าตัวอีกด้วยก็ไม่น่าเชื่อว่า 'เดอะ ก็อด' จะจบชีวิตค้าแข้งของตัวเองได้อย่างเงียบเหงาแบบนี้

2.อาเดรียโน่


ในช่วงที่ อาเดรียโน่ ดาวเตะชาวบราซิเลี่ยนกำลังโด่งดังนั้นเขานับว่ามีเท้าซ้ายที่ฉมังวางใจได้ที่สุดคนหนึ่งบนโลกเลยก็ว่าได้ ช่วงขีวิตที่ดีที่สุดของ อาเดรียโน คือสมัยที่เขาค้าแข้งอยู่ในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี กับทั้ง ปาร์ม่า และ อินเตอร์ มิลาน ในช่วงปี 2002 ถึงปี 2006 เขาคว้าแชมป์ สคูเด็ตโต้ ถึง 4 สมัย และ โคปา อิตาเลีย 2 สมัย จนถูกยกย่องว่าจะเป็นผู้สานต่อตำนานของ'โล้นทองคำ' โรนัลโด้

แต่อย่างไรก็ตามด้วยนิสัยที่ชอบปาร์ตี้ใช้ชีวิตไปกับแสงสีและความบันเทิงแทบทุกวันทำให้ฟอร์มของเจ้าตัวเริ่มถดถอยลงสภาพร่างกายก็อ้วนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจนเมื่อเขาต้องย้ายออกจาก อินเตอร์ เขาก็ร่วมงานกับอีกหลายๆสโมสรแต่ก็ไม่ใกล้เคียงกับคำว่าสุดยอดดาวยิงอีกเลย

โดยเขาแขวนสตั๊ดกับ ไมอามี่ ยูไนเต็ด ในปี 2016 ด้วยการลงสนามเพียง 1 เกม และหลังจากนั้นเขาก็ช็อควงการฟุตบอลด้วยการกลับไปใช้ชีวิตเยี่ยงอันธพาล อาเดรียโน่ เข้าไปอยู่แก๊งมาเฟียในเมือง ฟาเวล่า ในประเทศบราซิล ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนที่รวมอบายมุขทุกสิ่งอย่างไม่ว่าจะเป็นการค้ายาเสพติด,มั่วสุมเซ็กส์และขายบริการ รวมถึงการฆ่าระหว่างอันธพาลท้องถิ่น

3.ไมเคิล โอเว่น


โอเว่น เเจ้งเกิดกับลิเวอร์พูลตั้งแต่อายุ 17 ปีก่อนจะสร้างชื่อก้องโลกบนเวทีฟุตบอลโลก 1998 ทีประเทศฝรั่งเศสโดยเฉพาะในลีลาการทำประตูในเกมที่อังกฤษพ่ายให้กับอาร์เจนติน่า

โอเว่น ลงสนามให้กับลิเวอร์พูลถึง 216 เกมและยิงไป 118 ประตู ก่อนจะย้ายไปเรอัล มาดริด,นิวคาสเซิล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามลำดับ

โดยถึงแม้จะเขาจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ก็ไม่ได้ถูกจดจำมากนักเนื่องจากเขามักจะใช้ชีวิตบนม้านั่งสำรองเสียส่วนใหญ่หลังจากนั้นในฤดูกาล 2012/13 โอเว่นได้ย้ายไปอยู่กับสโต๊ค ซิตี้ และลงสนามไปทั้งสิ้น 9 เกม และ ยิงไป 1 ประตู ซึ่งหลังจากจบฤดูกาลนั้นเขาก็จัดการปิดฉากชีวิตค้าแข้งของตนเองในที่สุด ซึ่งทุกวันนี้ โอเว่น ก็มักจะโดนแซวบ่อยๆว่าเป็นตำนานดาวยิงของสโต๊คมากกว่าที่จะเป็นดาวยิงระดับตำนานของลิเวอร์พูล

4.นิโกล่าห์ อเนลก้า


อเนลก้า นับว่าเป็นสุดยอดดาวยิงคนหนึ่งของวงการฟุตบอล เขาผ่านการเล่นให้กับสโมสรใหญ่ๆมากมายไม่ว่าจะเป็น  อาร์เซน่อล,เรอัล มาดริด,เปแอสเช,ลิเวอร์พูล,เชลซี และ ยูเวนตุส

ทว่าด้วยพฤติกรรมที่ยํ่าแย่ของเจ้าตัวแทนที่เขาจะจบชีวิตค้าแข้งอย่างสวยหรูกลับต้องเดินทางไกลไปค้าแข้งถึงลีกแดนมังกรกับ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ก่อนที่จะไปต่อที่ มุมไบ ซิตี้ ทีมจากอินเดียซึ่งก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรเลยแม้แต่รายการเดียวและปิดฉากชีวิตค้าแข้งของตัวเองในที่สุด

5.โอเว่น ฮากรีฟส์


โอเว่น ฮากรีฟส์ ผ่านการเล่นให้กับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างบาเยิร์น มิวนิค และ แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมคว้าแชมป์มามากมายกับทีมไม่ว่าจะเป็น นเดสลีก้า 4 สมัย , พรีเมียร์ลีก 1 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีก 1 สมัย

แต่ทว่าในขณะที่ชะตาชีวิตกำลังพุ่งสุดขีดเขาเกิดโชคร้ายได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรง จนทำให้เขาต้องบาดเจ็บและร้างสนามไปกว่า 2 ปี จนกระทั่งในปี 2011 เขาได้โอกาสลงสนามอีกครั้งจากการลงสนามมาเป็นตัวจริงในเกมทีปีศาจเเดงพบกับ วูล์ฟส์แฮมป์ตัน ทว่าเล่นไปได้เพียง 5 นาทีเท่านั้นเขาก็เจ็บที่บริเวณหลังหัวเข่าซ้ำจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่จบฤดูกาล ฮาร์กรีฟส์ ก็หมดสัญญากับปีศาจเเดงและแน่นอนว่าด้วยอาการบาดเจ็บที่เรื้อรังทำให้เขาไม่ได้รับการขยายสัญญาออกไปซึ่งหลังจากเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์ได้ไม่นานเขาก็ได้สโมสรใหม่ด้วยการการเซ็นสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อริร่วมเมืองของอดีตต้นสังกัดของเขานั่นเอง ฮาร์กรีฟส์ ออกสตาร์ทกับเรือใบสีฟ้าได้อย่างยอดเยี่ยม เขายิงประตูได้ทันทีในเกมลีกคัพ แต่แฟนเรือใบสีฟ้ายังไม่ทันจะได้เฮแบบสุดเสียง ฮาร์กรีฟส์ ก็เจ็บหนักซ้ำซ้อนเป็นหนที่ 3 ในรอบ 3 ปี หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ลงสนามให้กับ แมนฯ ซิตี้ อีกเลยและด้วยสัญญาที่เซ็นไว้เพียงปีเดียวก็ทำให้เขากลายเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์อีกครั้ง

และแน่นอนว่าด้วยอาการบาดเจ็บเรื้อรังของเขาทำให้ไม่มีสโมสรไหนอยากจะเสี่ยงกับเจ้าตัวอีกจนท้ายที่สุดเขาต้องจำใจแขวนสตั๊ดด้วยวัยเพียง 31 ปีเท่านั้น ดูบอลสด

ผู้เขียน Toffeesmen

ความคิดเห็น