ไม่ถึงฝัน!! 5 แข้งดาวรุ่งลูกหนังที่ปลายทางไม่เป็นใจ โดยดูบอลสด

ไม่ถึงฝัน!! 5 แข้งดาวรุ่งลูกหนังที่ปลายทางไม่เป็นใจ

ในบรรดานักเตะดาวรุ่งมีทั้งคนที่ฉายแววและแจ้งเกิดได้สำเร็จกับคนที่เหมือนจะสำเร็จแต่สุดท้ายก็พลาดหวังไป

วันนี้ขอย้อนไปดู 5 แข้งดาวรุ่งในอดีตที่น่าเสียดายที่พวกเขาไปไม่ถึงฝันของตัวเอง โดยดูบอลสดกัน

ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า

ชีวิตพลิกผันจนเจ้าตัวยังงง

'ซาวิโอล่า'หนึ่งในนักเตะที่เคยถูกยกย่องว่าเป็น'มาราโดนา'คนต่อไป โดยหมอนี่ทำลายสถิติ บอลเด็กชิงแชมป์โลก  FIFA U-20 World Cup ของมาราดาโดน่า ที่ยิงประตูไว้ โดยซาวิโอล่า ยิงไป 11 ประตู จาก 7เกมส์ แล้วพา อาร์เจนติน่าเป็นแชมป์บอลโลก ยู 20 ในครั้งนั้น ด้วยฟอร์มเทพขนาดนี้ ทั้งโลกจึงหันมาจับตามองเด็กคนนี้ จบทัวร์นาเม้นท์นั้นเขาได้ย้ายไปบาร์ซ่า จนเป็นข่าวฮือฮา แฟนบอลต่างคาดหวังกับเจ้าของฉายา "กระต่ายน้อย" ผู้นี้ไว้มาก โดยจบปีแรก เขายิงไป 21 ประตูให้ บาร์ซ่า ใช่มันไม่ได้ขี้เหร่เลย สำหรับเด็กอายุ 19 ในตอนนั้น ฤดูกาลถัดมา ยิงรวมได้ 20 ประตู ความจริงถ้าวัดกันที่จำนวนประตูก็ถือว่าไม่ได้ขี้เหร่อะไร แต่อาจเพราะด้วยความคาดหวัง กับการเปลี่ยนแปลงภายในบาร์ซ่าในช่วงยุคต้น 2000 ที่ไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลยจนสุดท้าย  เขาต้องย้ายไป โมนาโก รวมแล้วอยู่กับบาร์ซ่า 144 นัด ยิงไป 60 ประตู(ที่จริงก็ถือว่ายิงเยอะอยู่นะ)

แต่จุดพลิกผันของเขาอยู่ต่อจากนี้ หลังจากย้ายไปโมนาโก ชื่อของเขาก็ค่อยๆเงียบหายไป กลับมาอยู่มาดริดอีกทีก็เป็นแค่สำรอง หลังจากนั้นก็ย้ายไปเบนฟิก้า มาลาก้า โอลิมเปียกอส เวโรน่า กลายเป็นกองหน้าพเนจรไปซะงั้น (พลิกผันกันไปแบบงงๆ)

เซบาสเตียน ไดส์เลอร์ 

อาการบาดเจ็บเล่นงานจนทนไม่ไหว

'ไดส์เลอร์'เป็นนักเตะพรสวรรค์เยอรมันสายเลือดแท้เพียงคนเดียวในยุคนั้น ที่สื่อยกย่องว่าเป็นความหวังใหม่ของชาติ โดยโดดเด่นที่เทคนิคอันสุดยอดในแบบที่ไม่มีใครเทียบได้ ทั้งการจ่ายบอล การขับเคลื่อนทีมและความกล้าหาญ ดูบอลสด

แต่น่าเสียดายที่ดาวรุ่งจากกลัดบัคผู้นี้  ต้องประสบปัญหารุมเร้า ทั้งอาการบาดเจ็บ ทั้งปัญหาโรคซึมเศร้า ความกดดันต่างๆ ที่เจ้าตัวเกินจะรับไหว ที่สำคัญที่สุดคือการผ่าตัดซ้ำซ้อน จนในที่สุด ไดส์เลอร์ก็ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลในวัยแค่ 27 ปี เท่านั้นเอง

เดนิลสัน

พเนจรจนแขวนสตั๊ด

'เดนิลสัน'หากใครเป็นแฟนบอลบราซิล คงรู้จักเป็นอย่างดี เพราะถือเป็นนักเตะดังอีกรายในบรรดาแข้งแซมบ้าด้วยกัน เซียนเลี้ยงคนนี้ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ไปกับบอลได้ดีที่สุดในโลก ณ เวลานั้น ทั้งการล็อคหลบ, กระชาก รวมถึงพาบอลจี้เข้าหากรอบเขตโทษนั้นบอกได้ว่าแทบไม่มีใครเอาอยู่และหลังจากระเบิดฟอร์มสะท้านโลกกับ เซาเปาโล มา 4 ปี ก็เป็นทีมดังจากสเปนในขณะนั้นอย่าง เรอัล เบติส ที่ได้ตัวเขาไปเสริมทัพด้วยค่าตัว 21.5 ล้านปอนด์เมื่อปี 1998

แต่อย่างไรก็ตามพอเบติสตกชั้นในปี 1999 เดนิลสันก็ถูกปล่อยตัวไปเล่นให้ ฟลามิงโก ทีมในบ้านเกิดด้วยสัญญายืมตัว ก่อนที่เบติสจะขายต่อให้ บอร์โดซ์ ทีมดังของฝรั่งเศสในปี 2005 แต่ด้วยค่าเหนื่อยที่สูงเกินจะรับภาระได้ไหว สุดท้ายบอร์โดซ์ก็ไม่ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่หลังหมดสัญญาในปี 2006 โดยหลังจากนั้น เดนิลสัน ก็กลายเป็นนักเตะพเนจรค่อยๆดับแสงลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็แขวนสตั๊ดไปในที่สุด

อลัน สมิธ

ขาหักจนไม่สามารถเรียกฟอร์มเดิมกลับมาได้

'อลัน สมิธ'แทบไม่น่าเชื่อว่าปัจจุบัน ชื่อสมัดเจอร์จะกลายเป็นนักเตะผู้ถูกลืม ทั้งที่ครั้งหนึ่ง อลัน สมิธ คือนักเตะความหวังของสาวกทรีไลอ้อน มีแฟนบอลชื่นชอบมากมาย ด้วยบุคลิกที่เข้มแข็ง ขยัน ทุ่มเท ใจสู้ไม่ถอย แถมฝีเท้าโดดเด่นไม่แพ้ใคร แต่เหมือน โชคชะตาเล่นตลก ในช่วงที่ชึวิตนักเตะอยู่ในจุดสูงสุด ได้ย้ายมาร่วมทีมเบอร์ 1 แห่งเกาะอังกฤษอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สมิธกลับต้องเผชิญกับการลงเล่นตำแหน่งที่ไม่ถนัด (แต่เขาก็ทำได้ดีเสมอเมื่อได้ลงสนาม) แต่เพราะในทีมเต็มไปด้วยนักเตะฝีเท้าดีทำให้โอกาสลงสนามของเขามีไม่มากนัก ทั้งที่เขาเป็นนักเตะที่เฟอร์กูสันชื่นชอบพอสมควร  และจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเขาก็เกิดขึ้นนั้นคือการพุ่งขวางลูกยิงของ จอห์น อาร์เน รีเซ จนลงผิดท่าข้อเท้าหักต้องรักษาอาการบาดเจ็บนานถึง 7 เดือน และถึงแม้ว่าเขาจะกลับมาได้แต่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเขาไม่เหมือนเดิมแล้วจนในที่สุดก็ต้องย้ายทีมออกไป

หลังจากน้นชื่อของ'อลัน สมิธ'ก็ค่อยๆเลือนหายไปทีละน้อย จนปัจจุบันสมิธในวัย 35 สมิธ ได้มาเป็นผู้เล่นและผู้จัดการทีมของทีม น็อตต์ เคาท์ตี้ ในลีก 2 แทน(น่าเสียดายจริงๆ)

เฟรดดี้ อาดู

เลือกเดินทางผิดชีวิตเปลี่ยน

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ชื่อของ'เฟรดดี้ อาดู'ได้รับการจับตามองจากคนทั้งโลกแบบไม่วางตา ในฐานะวันเดอร์คิดแห่งโลกฟุตบอลที่ถือเป็นอนาคตของวงการฟุตบอลสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่อายุเพียง 14 ปีเขาถูกคาดหมายว่าจะพาเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ ให้ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น และจะกลายเป็นซูเปอร์สตาร์แห่งวงการฟุตบอลคนแรกที่เกิดบนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา เขาถูกนำไปเปรียบกับเปเล่ และได้รับการคาดหมายว่าจะทำให้สายตาของคนทั้งโลกสยบอยู่ใต้ฝีเท้าของเขาได้ไม่ยากเย็น

แต่แล้วเหมือนโดนพลังมืดครอบงำทำให้อนาคตดับวูบเมื่อเขาย้ายออกไปหาประสบการณ์ในต่างถิ่นชื่อของเขาก็ค่อยๆจางหายไปจากวงการลูกหนังโดยที่ไม่มีใครหยิบยกมาพูดถึงในแง่ชื่นชมอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว ดูบอลสด

ผู้เขียน Toffeesmen